คุณหญิงโค้ดดิ้ง ติดตามการเรียนการสอนCODING จ.อุดรธานี ลั่นCODINGเรียนได้ทุกคน ทุกที่ ทุกเวลา พัฒนาด้านการศึกษาถึงตัวเด็กโดยตรง
03 ธ.ค. 2562 / กระทรวงศึกษาธิการ
(2 ธ.ค. 62) คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ลงพื้นที่ติดตามผลการดำเนินงานของสถานศึกษาในการจัดการเรียนการสอน CODING พร้อมประชุมมอบนโยบายแก่ผู้บริหารสถานศึกษา ณ โรงเรียนสุมเส้าพิทยาคาร อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี
นายคมสันต์ ถานกางสุ่ย ผอ.โรงเรียนสุมเส้าพิทยาคาร กล่าวว่า โรงเรียนสุมเส้าพิทยาคาร เป็นโรงเรียนมัธยมศึกษาในตำบลสุมเส้า อำเภอเพ็ญ จังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำอำเภออันดับ 2 รองจากโรงเรียนเพ็ญพิทยาคม เปิดสอนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลาย โดยนำการจัดการเรียนการสอน CODING มาประกอบการใช้งานคำสั่งคอมพิวเตอร์ในระดับมัธยมต้น และนำมาบูรณาการกับวิชาฟิสิกส์ในระดับมัธยมปลายด้วย
รมช.ศึกษาธิการ กล่าวชื่นชมการจัดการเรียนการสอน CODING ในระดับมัธยมศึกษาของโรงเรียนสุมเส้าพิทยาคาร ซึ่งจากการพูดคุยกับนักเรียนพบว่าเด็กมีความสุขกับการเรียน เนื่องจากการเรียน CODING เข้าใจง่าย ได้มีการวางแผนร่วมกับเพื่อนเพื่อแก้ปัญหาทีละขั้นตอนไปจนบรรลุเป้าหมาย จึงขอเป็นกำลังใจให้ครูและนักเรียนพัฒนาองค์ความรู้ด้านโรบอท ด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีต่อไปจนสำเร็จตามที่ตั้งใจไว้
ในส่วนของชั้นมัธยมศึกษา มีการเรียนการสอนวิชาคณิตศาสตร์คำนวณ หรือ STEM อยู่แล้ว สามารถเรียนต่อยอดได้อย่างต่อเนื่อง แต่สิ่งที่ต้องการให้เพิ่มเติม คือ การผลักดันให้เกิดการเรียนการสอน CODING ในชั้นปฐมวัยและประถมศึกษา เพราะเด็กสมัยใหม่ในโลกดิจิทัล จำเป็นต้องมีทักษะใหม่ที่จำเป็นสำหรับก้าวสู่ศตวรรษที่ 21 ซึ่งการเรียน CODING ในเด็กชั้นปฐมวัยและประถมศึกษายังไม่เคยมีมาก่อน กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จึงนำเสนอและผลักดันให้เป็นนโยบายของรัฐบาล โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศต่อสื่อมวลชนว่า ให้นักเรียนทุกชั้นปีตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาจนถึงมหาวิทยาลัย ได้เรียน CODING ภายในปี ค.ศ. 2020
ทั้งนี้ ในประเทศญี่ปุ่น จีน และเกาหลีใต้ มีนโยบายของประเทศอย่างชัดเจนว่าจะเริ่มสอน CODING ให้เด็กประถมศึกษาในปี ค.ศ.2020 ขณะที่ประเทศไทยมีบุคลากรและทรัพยากรคุณภาพจากสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) และครูที่มีพื้นฐานความรู้ STEM อยู่แล้ว จึงสามารถเริ่มจัดการเรียนการสอน CODING ได้ในโรงเรียนนำร่องกว่า 500 แห่ง เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
“ในชีวิตคนเราจะต้องสัมผัสกับเครื่องยนต์กลไกที่มีความก้าวหน้าตลอดเวลาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นักเรียนต้องฝึกฝนทักษะ CODING จึงจะอยู่ในศตวรรษที่ 21 ได้อย่างมั่นใจ มีศักดิ์ศรี ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี สังคม และการเมืองในยุคดิจิทัล เนื่องจากมีความเปลี่ยนแปลงรวดเร็วแบบก้าวกระโดด โดยที่เราไม่สามารถคาดคะเนได้ว่าในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเตรียมเด็กหลายล้านคน ให้มีทักษะที่โลก สังคม ผู้ประกอบการและอุตสาหกรรมต้องการในอนาคต” รมช.ศึกษาธิการกล่าว
สำหรับทักษะที่เด็กในยุคดิจิทัลจะต้องมีนั้น ได้แก่ ทักษะการอ่าน การเขียน การคิดวิเคราะห์ การคิดอย่างสร้างสรรค์ มีเหตุมีผล การคิดเชิงคณิตศาสตร์และการกล้าตัดสินใจ ซึ่งการเรียน CODING ในชั้นปฐมวัยและประถมศึกษา จะเป็นการเรียนแบบ UNPLUG CODING คือการเรียนโดยไม่ใช้คอมพิวเตอร์ แต่สามารถใช้เกม แผนภาพ หรือสิ่งที่มีอยู่ตามความพร้อมของโรงเรียนมาฝึกเด็กให้เกิดทักษะได้ เช่น โรงเรียนวัดคลองโคน จ.สมุทรสงคราม มีการนำ UNPLUG CODING มาใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้กระบวนการผลิตกะปิคลองโคน ซึ่งเป็นภูมิปัญญาของชาวตำบลคลองโคน รวมถึงส่งเสริมให้นักเรียนเกิดความภาคภูมิใจในท้องถิ่นของตนเอง สามารถต่อยอดความคิดในการพัฒนานวัตกรรมของโรงเรียนต่อไป
จะเห็นได้ว่า CODING สามารถเรียนรู้ได้ทุกคน ทุกอาชีพ ทุกวัย (Coding for All, All for Coding) โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ทันสมัยมากมาย เพียงแต่เป็นการฝึกให้เด็กคิดให้รอบคอบ เตรียมการวางแผน วิเคราะห์ปัญหาอย่างถ่องแท้และหาแนวทางแก้ปัญหาจนจบกระบวนการ “ถือได้ว่าเป็นการพัฒนาการศึกษาให้ถึงตัวเด็กโดยตรง และลดความเหลื่อมล้ำได้อย่างเป็นรูปธรรมครั้งแรกของประเทศไทย”
โอกาสนี้ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ได้ติดตามการจัดการเรียนการสอน CODING ของโรงเรียนสุมเส้าพิทยาคาร ซึ่งมีการนำเทคนิคจากวิชา CODING มาประยุกต์ใช้กับการแก้ปัญหาโจทย์วิชาฟิสิกส์ เนื่องจากมีวิธีการที่ง่ายกว่าการคำนวณแบบเดิมและมีความแม่นยำมากกว่า และเยี่ยมชมนิทรรศการจากสถานศึกษาใน จ.อุดรธานี เช่น CODING AND ROBOT การจัดการเรียนรู้ STEM ผลงานนักศึกษาสาขาวิศวกรรมแมคคาทรอนิกส์และหุ่นยนต์ เป็นต้น